รั้วตาข่ายถักปมไวน์แมน จูเนียร์
อายุการใช้งาน 80 ปี* ทนสนิมกว่า 4 เท่า 

  • ผลิตจากลวดแรงดึงสูงขนาด 2.0 มม. ทุกเส้น
  • เส้นลวดแรงดึงสูง (High Tensile) 1,200 นิวตัน/ตร.มม. รับน้ำหนักได้ถึง 385 กก. ดีกว่ารั้วทั่วไปในท้องตลาด
  • ชุบซิงค์แบบจุ่มร้อน (Hot Dipped Galvanized) ตามมาตรฐาน AS/NZs ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
  • ใหม่! เส้นล่างสุดเคลือบสีดำ ป้องกันสนิมได้นานยิ่งขึ้น ทนความชื้นจากพื้นดิน ยืดอายุการใช้งาน
  • ปมแบบพันเกลียวทำให้รั้วตาข่ายถักปมมีความยืดหยุ่นสูง ปมพันแน่นกว่า 4-5 เกลียวทำให้ปมไม่หลุดง่าย
  • เส้นลวดกึ่งสปริงแนวนอนออกแบบอย่างประณีตเพิ่มความยืดหยุ่น ขึ้นรูปรอยหยักขึ้น-ลงตลอดแนวยาว ทุกเส้น รับแรงกระแทกและสปริงตัวกลับได้โดยไม่เสียรูป
  • ราคาประหยัด รั้วตาข่ายที่มีคุณภาพ ในราคาที่ผู้ใช้งานสามารถจับต้องได้

*ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและการใช้งาน

คุณสมบัติพิเศษของ รั้วตาข่ายถักปม ไวน์แมนจูเนียร์

    • ทนสนิมด้วยลวดชุบซิงค์อลู (ZnAl) มีส่วนผสมอลูมิเนียม 10% ส่วนหนามเคลือบสีดำเพิ่มความโดดเด่น ตามมาตรฐาน ASTM สหรัฐอเมริกา ผ่านการทดสอบการทนสนิมโดยวิธีการพ่นละอองเกลือ (Salt Spray Test) อายุการใช้งานยาว 80 ปี*
 
    • ลวดแรงดึงสูง เบอร์ 15 (High Tensile) สามารถทนแรงกระแทกได้ดี ไม่หย่อน ไม่ขาดง่าย เหมือนลวดหนามทั่วไป
 
    • ปมหนามแบบไขว้สลับสวนทางกัน (Revered Twist) ออกแบบมาพิเศษด้วยเทคโนโลยีล่าสุด หนามไม่หลุดง่าย ทนทาน สวยงาม คุณภาพเหนือกว่า** ปมหนามเคลือบสีดำเพื่อป้องกันสนิมที่เกิดขึ้นปลายหนาม
 
    • ประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า ลวดแรงดึงสูงจึงใช้เสาน้อยกว่าระยะเสาเฉลี่ย 4 เมตร/ต้น ประหยัดค่าเสา ค่าแรง ประหยัดกว่าลวดหนามทั่วไป 4,000 บาททุกระยะ 100 เมตร และประหยัดเวลาอีกด้วย
 
    • ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว ลวดหนามซิงค์อลูไวน์แมน ออกแบบมาให้มีรูตรงกลางไว้สำหรับสอดไม้เข้าไปได้ จึงทำให้ติดตั้งได้ง่าย ขึงตึง สะดวก และรวดเร็ว การันตีความยาว 100/250 เมตรทุกม้วน ไม่ต้องต่อลวดบ่อย

    • ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น รั้วล้อมบ้าน รั้วล้อมที่ รั้วโรงงาน รั้วทางด่วน
** ขึ้นอยู่กับเสาที่ติดตั้ง

*ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและการใช้งาน

ข้อดีของรั้วตาข่ายถักปมไวน์แมน จูเนียร์

2.0 mm ลวดขนาด 2.0 มม.

ลวดขนาด 2.0 มม.

ลวดขนาด 2.0 มม. ทุกเส้น ผลิตจากลวดแรงดึงสูง 1200 นิวตัน/ตรมม(High Tensile) รั้วตาข่ายถักปมสามารถรับน้ำหนักได้เฉลี่ย 385 กก. มีความเหนียวไม่ขาดง่าย

ทนสนิม

ทนสนิม

รั้วตาข่ายไวน์แมนจูเนียร์ ผลิตจากเส้นลวดที่เคลือบกันสนิมด้วยการชุบซิงค์กันสนิมแบบจุ่มร้อน (Hot Dipped Galvanized) ตาม มาตรฐาน AS/NZs ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ทำให้ทนสนิมอายุการใช้งานนาน มากกว่า 10 ปี

เส้นล่างสุดเคลือบสีดำ

เส้นล่างสุด ชุบซิงค์อลูเคลือบสีดำ

ใหม่ !!! เส้นล่างสุด ชุบซิงค์อลูเคลือบสีดำ ป้องกันสนิมได้นานยิ่งขึ้น ทนความชื้นที่เกิดขึ้นจากพื้นดิน ช่วยยืดอายุการใช้งาน

ปมแบบพันเกลียว

ปมแบบพันเกลียว

ปมแบบพันเกลียวทำให้รั้วตาข่ายถักปมมีความยืดหยุ่นสูง ปมพันแน่นกว่า 4-5 เกลียวทำให้ปมไม่หลุดง่าย เพิ่มแรงยึดเหนี่ยวโครงสร้างตาข่าย และยังสามารถเดินขึ้นเนินได้

เส้นลวดกึ่งสปริงแนวนอน

เส้นลวดกึ่งสปริงแนวนอน

เส้นลวดกึ่งสปริงแนวนอนออกแบบอย่างประณีตเพิ่มความยืดหยุ่น ขึ้นรูปรอยหยักขึ้น-ลงตลอดแนวยาว ทุกเส้น รับแรงกระแทกและสปริงตัวกลับได้โดยไม่เสียรูป

ราคาประหยัด

ราคาประหยัด

ราคาประหยัด รั้วตาข่ายไวน์แมนจูเนียร์ รั้วตาข่ายที่มีคุณภาพ รั้วราคาประหยัด ผู้ใช้งานสามารถจับต้องได้

ใช้งานได้หลากหลาย

ใช้งานได้หลากหลาย

ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น รั้วล้อมบ้าน รั้วล้อมที่ รั้วล้อมสัตว์ รั้วรีสอร์ท รั้วฟาร์ม

2.0 mm ลวดขนาด 2.0 มม.

ลวดขนาด 2.0 มม. ทุกเส้น ผลิตจากลวดแรงดึงสูง 1200 นิวตัน/ตรมม(High Tensile) รั้วตาข่ายถักปมสามารถรับน้ำหนักได้เฉลี่ย 385 กก. มีความเหนียวไม่ขาดง่าย

ทนสนิม

รั้วตาข่ายไวน์แมนจูเนียร์ ผลิตจากเส้นลวดที่เคลือบกันสนิมด้วยการชุบซิงค์กันสนิมแบบจุ่มร้อน (Hot Dipped Galvanized) ตาม มาตรฐาน AS/NZs ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ทำให้ทนสนิมอายุการใช้งานนาน มากกว่า 10 ปี

เส้นล่างสุดเคลือบสีดำ

ใหม่ !!! เส้นล่างสุด ชุบซิงค์อลูเคลือบสีดำ ป้องกันสนิมได้นานยิ่งขึ้น ทนความชื้นที่เกิดขึ้นจากพื้นดิน ช่วยยืดอายุการใช้งาน

ปมแบบพันเกลียว

ปมแบบพันเกลียวทำให้รั้วตาข่ายถักปมมีความยืดหยุ่นสูง ปมพันแน่นกว่า 4-5 เกลียวทำให้ปมไม่หลุดง่าย เพิ่มแรงยึดเหนี่ยวโครงสร้างตาข่าย และยังสามารถเดินขึ้นเนินได้

เส้นลวดกึ่งสปริงแนวนอน

เส้นลวดกึ่งสปริงแนวนอนออกแบบอย่างประณีตเพิ่มความยืดหยุ่น ขึ้นรูปรอยหยักขึ้น-ลงตลอดแนวยาว ทุกเส้น รับแรงกระแทกและสปริงตัวกลับได้โดยไม่เสียรูป

ราคาประหยัด

ราคาประหยัด รั้วตาข่ายไวน์แมนจูเนียร์ รั้วตาข่ายที่มีคุณภาพ รั้วราคาประหยัด ผู้ใช้งานสามารถจับต้องได้

ใช้งานได้หลากหลาย

ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น รั้วล้อมบ้าน รั้วล้อมที่ รั้วล้อมสัตว์ รั้วรีสอร์ท รั้วฟาร์ม

รั้วตาข่ายถักปม ไวน์แมนจูเนียร์ รุ่นต่าง ๆ

Vineman Junior

"รุ่นความสูงยอดนิยมราคาประหยัด"

รั้วตาข่ายถักปมไวน์แมน จูเนียร์ รุ่น 10-120-15


  • รั้วรุ่นยอดนิยม ช่องถี่ด้านล่าง ห่างด้านบน สำหรับคนที่ไม่ได้อยากได้รั้วตาข่ายที่มีความสูงมากนัก ราคาประหยัด
  • เหมาะสำหรับใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นล้อมที่ดิน ล้อมสวน หรือล้อมสัตว์ขนาดเล็ก
  • Vineman Junior

    "รุ่นเหนียวทนทานราคาประหยัด"

    รั้วตาข่ายถักปมไวน์แมนจูเนียร์ รุ่น 15-150-15


  • เพิ่มความมั่นใจด้วยความสูง 150 ซม. ผลิตจากลวดแรงดึงสูง เหนียวไม่ขาดง่าย ใช้ได้นาน ราคาประหยัด
  • เหมาะสำหรับใช้งานหลากหลาย ทั้งล้อมบ้าน ล้อมพื้นที่ ล้อมสัตว์ ล้อมกั้นอาณาเขต
  •  

    1. ตั้งเสาให้แข็งแรง

    ขั้นตอนแรกของการล้อมรั้วคือ การตั้งเสา เสาที่ใช้กับลวดหนาม สามารถใช้ได้กับเสา ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเสาไม้ เสาปูน เสาเหล็กก็สามารถใช้กับลวดหนามได้ทั้งหมด การติดตั้งเสา ควรติดตั้งเสาให้แข็งแรง ต้นแรก หรือ ต้นสุดท้ายควรมีการทำค้ำยัน หรืออาจจะทำทุกระยะ 30-50 เมตร เพื่อป้องกันการล้มของเสา ส่วนรากฐาน ควรขุดหลุมเทปูน ให้เรียบร้อย ป้องกัน การโยกของเสาแต่ละต้น ส่วนระยะห่างของ ลวดหนามทั่วไปอยู่ที่ 2-2.5 เมตร/ต้น แต่ถ้าหากเป็นลวดหนามซิงค์อลูไวน์แมน
ระยะเสารั้วสามารถห่างได้ถึง 4-5 เมตร/ต้น
     

    2. ดึงลวดหนามให้ตึง

    หลังจากที่เราได้ตั้งเสาเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การติดตั้งลวดหนามกับเสาที่ได้จัดเตรียมไว้ โดยปกติการติดตั้งลวดหนาม จะดึงทีละต้น โดยใช้ชะแลง เป็นตัวช่วยดึงลวดหนามให้ดึง หากไม่ดึงให้ตึงแล้ว อนาคตอาจจะทำให้ ลวดหนามหย่อนยานและหลุดได้

    3. ยึดลวดหนามติดกับเสา

    วิธีการยึดลวดหนามกับเสามีหลายวิธี เช่น ใช้ตะปูตอกพับ ระหว่างเสากับลวดหนาม ใช้กิ๊บลวดหนาม ล็อคระหว่าง เสากับลวดหนาม โดยปกติเสาจะมีรูให้สำหรับ ใส่ตัวกิ๊บล็อค ลวดหนามอยู่แล้ว ทำให้สามารถตอกกิ๊บลงไปในรู ส่วนอีกฝั่งทำการตีล็อคป้องกันการหลุดได้ หรือจะเป็นการใช้ลวดผูกระหว่าง เสากับตาข่าย โดยวิธีนี้ถือว่าทนและแข็งแรง ไม่มีหลุด สามารถใช้ลวดทั่วไปผูกได้ คำเตือน ควรสวมอุปกรณ์ป้องกัน ก่อนการติดตั้งทุกครั้ง เช่น ถุงมือ เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ทุกครั้งเนื่องจากลวดหนามมีลักษณะคม อาจทำให้เกิดบาดแผลได้
     

    1. ตั้งเสาให้แข็งแรง

    ขั้นตอนแรกของการล้อมรั้วคือ การตั้งเสา เสาที่ใช้กับลวดหนาม สามารถใช้ได้กับเสา ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเสาไม้ เสาปูน เสาเหล็กก็สามารถใช้กับลวดหนามได้ทั้งหมด การติดตั้งเสา ควรติดตั้งเสาให้แข็งแรง ต้นแรก หรือ ต้นสุดท้ายควรมีการทำค้ำยัน หรืออาจจะทำทุกระยะ 30-50 เมตร เพื่อป้องกันการล้มของเสา ส่วนรากฐาน ควรขุดหลุมเทปูน ให้เรียบร้อย ป้องกัน การโยกของเสาแต่ละต้น ส่วนระยะห่างของ ลวดหนามทั่วไปอยู่ที่ 2-2.5 เมตร/ต้น แต่ถ้าหากเป็นลวดหนามซิงค์อลูไวน์แมน
ระยะเสารั้วสามารถห่างได้ถึง 4-5 เมตร/ต้น
     

    2. ดึงลวดหนามให้ตึง

    หลังจากที่เราได้ตั้งเสาเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การติดตั้งลวดหนามกับเสาที่ได้จัดเตรียมไว้ โดยปกติการติดตั้งลวดหนาม จะดึงทีละต้น โดยใช้ชะแลง เป็นตัวช่วยดึงลวดหนามให้ดึง หากไม่ดึงให้ตึงแล้ว อนาคตอาจจะทำให้ ลวดหนามหย่อนยานและหลุดได้

    3. ยึดลวดหนามติดกับเสา

    วิธีการยึดลวดหนามกับเสามีหลายวิธี เช่น ใช้ตะปูตอกพับ ระหว่างเสากับลวดหนาม ใช้กิ๊บลวดหนาม ล็อคระหว่าง เสากับลวดหนาม โดยปกติเสาจะมีรูให้สำหรับ ใส่ตัวกิ๊บล็อค ลวดหนามอยู่แล้ว ทำให้สามารถตอกกิ๊บลงไปในรู ส่วนอีกฝั่งทำการตีล็อคป้องกันการหลุดได้ หรือจะเป็นการใช้ลวดผูกระหว่าง เสากับตาข่าย โดยวิธีนี้ถือว่าทนและแข็งแรง ไม่มีหลุด สามารถใช้ลวดทั่วไปผูกได้ คำเตือน ควรสวมอุปกรณ์ป้องกัน ก่อนการติดตั้งทุกครั้ง เช่น ถุงมือ เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ทุกครั้งเนื่องจากลวดหนามมีลักษณะคม อาจทำให้เกิดบาดแผลได้
    ตามมาตรฐาน DIN SS 5021, ASTM B117, ISO 9227 มาตรฐานการทดสอบด้วยละอองน้ำเกลือ เป็นการทดสอบเพื่อพิสูจน์ถึง ความทนทานของวัตถุที่ชุบ หรือเคลือบสารโลหะบางชนิด ต่อการสึกกร่อน ของตัวอย่างที่ทดสอบ ผลการทดสอบด้วยวิธีนี้ เป็นการตรวจสอบ ความไม่สม่ำเสมอของสารที่เคลือบในวัตถุ เช่น การเกิดรูพรุนในวัตถุ ทำให้ทราบถึงมาตรฐาน ในการชุบหรือเคลือบของโลหะ ทั้งผลการทดสอบ ยังทำให้ทราบถึงข้อบกพร่องอื่นๆ ที่เกิดขึ้นได้อีกด้วย ในการทดสอบครั้งนี้ไวน์แมน ได้ทดสอบในห้องทดลองที่ได้รับมาตรฐาน ISO 9001 ภายใต้การควบคุม ของสถาบันระดับโลกมาตรฐานสากล โดยใช้ตัวอย่างลวดหนาม ที่ชุบโลหะในปริมาณที่เท่ากันทั้งเส้น โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ

    1. ชุบซิงค์ปกติ
    2. ชุบซิงค์อลูมิเนียม (ส่วนผสมอลูมิเนียม 5 %)
    3. ลวดหนามซิงค์อลูมิเนียมไวน์แมน (ส่วนผสมอลูมิเนียม 10 %)
    จากการทดสอบ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ผลการทดสอบ ซึ่งแสดงผลได้ด้วยกราฟ ดังนี้
    1. ผลการทดสอบความทนทานต่อการกัดกร่อนของละอองเกลือ

  • ลวดหนามชุบซิงค์อลูมิเนียม (ส่วนผสมอลูมิเนียม 10 %) ทนทานกว่า 3 เท่า เมื่อเทียบกับ ลวดหนามชุบซิงค์อลูมิเนียม (ส่วนผสมอลูมิเนียม 5 %)

  • ลวดหนามซิงค์อลูมิเนียมไวน์แมน (ส่วนผสมอลูมิเนียม 10 %) ทนทานกว่า 14 เท่า เมื่อเทียบกับ ลวดหนามชุบซิงค์ปกติ
  • 2. ผลการทดสอบอายุการใช้งานจากสภาวะชั้นการสึกกร่อนต่าง ๆ

    จากปัจจัยต่างๆ ที่ใช้ทดสอบ ได้กำหนดพื้นที่ระดับการสึกกร่อน ตั้งแต่ C1 ถึง C4 (ตามมาตรฐาน EN ISO 9223) ทั้งนี้เพื่อนำผลที่ได้รับนำมาคำนวณหาค่าน้ำหนักของสารเคลือบโลหะ ที่สึกกร่อนหายไป ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้ สามารถนำไปประเมินถึงอายุการใช้งานได้ในลำดับต่อไป (ตามมาตรฐาน EN ISO 9224:1992)

    *อายุการใช้งานขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัย เช่น ลักษณะสภาพอากาศ และประเภทของการใช้งาน ตลอดจนคุณภาพของสารที่ใช้เคลือบ

    จึงทำได้เพียงประเมินอายุการใช้งานได้เท่านั้น

    ตามมาตรฐาน DIN SS 5021, ASTM B117, ISO 9227 มาตรฐานการทดสอบด้วยละอองน้ำเกลือ เป็นการทดสอบเพื่อพิสูจน์ถึง ความทนทานของวัตถุที่ชุบ หรือเคลือบสารโลหะบางชนิด ต่อการสึกกร่อน ของตัวอย่างที่ทดสอบ ผลการทดสอบด้วยวิธีนี้ เป็นการตรวจสอบ ความไม่สม่ำเสมอของสารที่เคลือบในวัตถุ เช่น การเกิดรูพรุนในวัตถุ ทำให้ทราบถึงมาตรฐาน ในการชุบหรือเคลือบของโลหะ ทั้งผลการทดสอบ ยังทำให้ทราบถึงข้อบกพร่องอื่นๆ ที่เกิดขึ้นได้อีกด้วย ในการทดสอบครั้งนี้ไวน์แมน ได้ทดสอบในห้องทดลองที่ได้รับมาตรฐาน ISO 9001 ภายใต้การควบคุม ของสถาบันระดับโลกมาตรฐานสากล โดยใช้ตัวอย่างลวดหนาม ที่ชุบโลหะในปริมาณที่เท่ากันทั้งเส้น โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ

    1. ชุบซิงค์ปกติ
    2. ชุบซิงค์อลูมิเนียม (ส่วนผสมอลูมิเนียม 5 %)
    3. ลวดหนามซิงค์อลูมิเนียมไวน์แมน (ส่วนผสมอลูมิเนียม 10 %)
    จากการทดสอบ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ผลการทดสอบ ซึ่งแสดงผลได้ด้วยกราฟ ดังนี้
    1. ผลการทดสอบความทนทานต่อการกัดกร่อนของละอองเกลือ

  • ลวดหนามชุบซิงค์อลูมิเนียม (ส่วนผสมอลูมิเนียม 10 %) ทนทานกว่า 3 เท่า เมื่อเทียบกับ ลวดหนามชุบซิงค์อลูมิเนียม (ส่วนผสมอลูมิเนียม 5 %)

  • ลวดหนามซิงค์อลูมิเนียมไวน์แมน (ส่วนผสมอลูมิเนียม 10 %) ทนทานกว่า 14 เท่า เมื่อเทียบกับ ลวดหนามชุบซิงค์ปกติ
  • กดที่รูปเพื่อขยาย

    2. ผลการทดสอบอายุการใช้งานจากสภาวะชั้นการสึกกร่อนต่าง ๆ

    จากปัจจัยต่างๆ ที่ใช้ทดสอบ ได้กำหนดพื้นที่ระดับการสึกกร่อน ตั้งแต่ C1 ถึง C4 (ตามมาตรฐาน EN ISO 9223) ทั้งนี้เพื่อนำผลที่ได้รับนำมาคำนวณหาค่าน้ำหนักของสารเคลือบโลหะ ที่สึกกร่อนหายไป ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้ สามารถนำไปประเมินถึงอายุการใช้งานได้ในลำดับต่อไป (ตามมาตรฐาน EN ISO 9224:1992)

    กดที่รูปเพื่อขยาย

    กดที่รูปเพื่อขยาย

    *อายุการใช้งานขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัย เช่น ลักษณะสภาพอากาศ และประเภทของการใช้งาน ตลอดจนคุณภาพของสารที่ใช้เคลือบ

    จึงทำได้เพียงประเมินอายุการใช้งานได้เท่านั้น

    หากคุณอยากรู้จักลวดหนามให้มากขึ้น เราขอแนะนำให้อ่านบทความด้านล่างนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง

    • ความเป็นมาของลวดหนาม
    • เบอร์ลวดหนามที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน
    • ลักษณะการพันเกลียวหนามมีกี่รูปแบบ
    • การเคลือบสารกันสนิมหรือการชุบซิงค์ มีกี่แบบ และแตกต่างกันอย่างไร
    • ความแตกต่างของลวดหนามไวน์แมน และลวดหนามทั่วไป

    หากคุณอยากรู้จักลวดหนามให้มากขึ้น เราขอแนะนำให้อ่านบทความด้านล่างนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง

    • ความเป็นมาของลวดหนาม
    • เบอร์ลวดหนามที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน
    • ลักษณะการพันเกลียวหนามมีกี่รูปแบบ
    • การเคลือบสารกันสนิมหรือการชุบซิงค์ มีกี่แบบ และแตกต่างกันอย่างไร
    • ความแตกต่างของลวดหนามไวน์แมน และลวดหนามทั่วไป
     

    1. ตั้งเสาให้แข็งแรง

    ขั้นตอนแรกของการล้อมรั้วคือ การตั้งเสา เสาที่ใช้กับลวดหนาม สามารถใช้ได้กับเสา ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเสาไม้ เสาปูน เสาเหล็กก็สามารถใช้กับลวดหนามได้ทั้งหมด การติดตั้งเสา ควรติดตั้งเสาให้แข็งแรง ต้นแรก หรือ ต้นสุดท้ายควรมีการทำค้ำยัน หรืออาจจะทำทุกระยะ 30-50 เมตร เพื่อป้องกันการล้มของเสา ส่วนรากฐาน ควรขุดหลุมเทปูน ให้เรียบร้อย ป้องกัน การโยกของเสาแต่ละต้น ส่วนระยะห่างของ ลวดหนามทั่วไปอยู่ที่ 2-2.5 เมตร/ต้น แต่ถ้าหากเป็นลวดหนามซิงค์อลูไวน์แมน
ระยะเสารั้วสามารถห่างได้ถึง 4-5 เมตร/ต้น
     

    2. ดึงลวดหนามให้ตึง

    หลังจากที่เราได้ตั้งเสาเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การติดตั้งลวดหนามกับเสาที่ได้จัดเตรียมไว้ โดยปกติการติดตั้งลวดหนาม จะดึงทีละต้น โดยใช้ชะแลง เป็นตัวช่วยดึงลวดหนามให้ดึง หากไม่ดึงให้ตึงแล้ว อนาคตอาจจะทำให้ ลวดหนามหย่อนยานและหลุดได้

    3. ยึดลวดหนามติดกับเสา

    วิธีการยึดลวดหนามกับเสามีหลายวิธี เช่น ใช้ตะปูตอกพับ ระหว่างเสากับลวดหนาม ใช้กิ๊บลวดหนาม ล็อคระหว่าง เสากับลวดหนาม โดยปกติเสาจะมีรูให้สำหรับ ใส่ตัวกิ๊บล็อค ลวดหนามอยู่แล้ว ทำให้สามารถตอกกิ๊บลงไปในรู ส่วนอีกฝั่งทำการตีล็อคป้องกันการหลุดได้ หรือจะเป็นการใช้ลวดผูกระหว่าง เสากับตาข่าย โดยวิธีนี้ถือว่าทนและแข็งแรง ไม่มีหลุด สามารถใช้ลวดทั่วไปผูกได้ คำเตือน ควรสวมอุปกรณ์ป้องกัน ก่อนการติดตั้งทุกครั้ง เช่น ถุงมือ เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ทุกครั้งเนื่องจากลวดหนามมีลักษณะคม อาจทำให้เกิดบาดแผลได้
     

    1. ตั้งเสาให้แข็งแรง

    ขั้นตอนแรกของการล้อมรั้วคือ การตั้งเสา เสาที่ใช้กับลวดหนาม สามารถใช้ได้กับเสา ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเสาไม้ เสาปูน เสาเหล็กก็สามารถใช้กับลวดหนามได้ทั้งหมด การติดตั้งเสา ควรติดตั้งเสาให้แข็งแรง ต้นแรก หรือ ต้นสุดท้ายควรมีการทำค้ำยัน หรืออาจจะทำทุกระยะ 30-50 เมตร เพื่อป้องกันการล้มของเสา ส่วนรากฐาน ควรขุดหลุมเทปูน ให้เรียบร้อย ป้องกัน การโยกของเสาแต่ละต้น ส่วนระยะห่างของ ลวดหนามทั่วไปอยู่ที่ 2-2.5 เมตร/ต้น แต่ถ้าหากเป็นลวดหนามซิงค์อลูไวน์แมน
ระยะเสารั้วสามารถห่างได้ถึง 4-5 เมตร/ต้น
     

    2. ดึงลวดหนามให้ตึง

    หลังจากที่เราได้ตั้งเสาเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การติดตั้งลวดหนามกับเสาที่ได้จัดเตรียมไว้ โดยปกติการติดตั้งลวดหนาม จะดึงทีละต้น โดยใช้ชะแลง เป็นตัวช่วยดึงลวดหนามให้ดึง หากไม่ดึงให้ตึงแล้ว อนาคตอาจจะทำให้ ลวดหนามหย่อนยานและหลุดได้

    3. ยึดลวดหนามติดกับเสา

    วิธีการยึดลวดหนามกับเสามีหลายวิธี เช่น ใช้ตะปูตอกพับ ระหว่างเสากับลวดหนาม ใช้กิ๊บลวดหนาม ล็อคระหว่าง เสากับลวดหนาม โดยปกติเสาจะมีรูให้สำหรับ ใส่ตัวกิ๊บล็อค ลวดหนามอยู่แล้ว ทำให้สามารถตอกกิ๊บลงไปในรู ส่วนอีกฝั่งทำการตีล็อคป้องกันการหลุดได้ หรือจะเป็นการใช้ลวดผูกระหว่าง เสากับตาข่าย โดยวิธีนี้ถือว่าทนและแข็งแรง ไม่มีหลุด สามารถใช้ลวดทั่วไปผูกได้ คำเตือน ควรสวมอุปกรณ์ป้องกัน ก่อนการติดตั้งทุกครั้ง เช่น ถุงมือ เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ทุกครั้งเนื่องจากลวดหนามมีลักษณะคม อาจทำให้เกิดบาดแผลได้
    ตามมาตรฐาน DIN SS 5021, ASTM B117, ISO 9227 มาตรฐานการทดสอบด้วยละอองน้ำเกลือ เป็นการทดสอบเพื่อพิสูจน์ถึง ความทนทานของวัตถุที่ชุบ หรือเคลือบสารโลหะบางชนิด ต่อการสึกกร่อน ของตัวอย่างที่ทดสอบ ผลการทดสอบด้วยวิธีนี้ เป็นการตรวจสอบ ความไม่สม่ำเสมอของสารที่เคลือบในวัตถุ เช่น การเกิดรูพรุนในวัตถุ ทำให้ทราบถึงมาตรฐาน ในการชุบหรือเคลือบของโลหะ ทั้งผลการทดสอบ ยังทำให้ทราบถึงข้อบกพร่องอื่นๆ ที่เกิดขึ้นได้อีกด้วย ในการทดสอบครั้งนี้ไวน์แมน ได้ทดสอบในห้องทดลองที่ได้รับมาตรฐาน ISO 9001 ภายใต้การควบคุม ของสถาบันระดับโลกมาตรฐานสากล โดยใช้ตัวอย่างลวดหนาม ที่ชุบโลหะในปริมาณที่เท่ากันทั้งเส้น โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ

    1. ชุบซิงค์ปกติ
    2. ชุบซิงค์อลูมิเนียม (ส่วนผสมอลูมิเนียม 5 %)
    3. ลวดหนามซิงค์อลูมิเนียมไวน์แมน (ส่วนผสมอลูมิเนียม 10 %)
    จากการทดสอบ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ผลการทดสอบ ซึ่งแสดงผลได้ด้วยกราฟ ดังนี้
    1. ผลการทดสอบความทนทานต่อการกัดกร่อนของละอองเกลือ

  • ลวดหนามชุบซิงค์อลูมิเนียม (ส่วนผสมอลูมิเนียม 10 %) ทนทานกว่า 3 เท่า เมื่อเทียบกับ ลวดหนามชุบซิงค์อลูมิเนียม (ส่วนผสมอลูมิเนียม 5 %)

  • ลวดหนามซิงค์อลูมิเนียมไวน์แมน (ส่วนผสมอลูมิเนียม 10 %) ทนทานกว่า 14 เท่า เมื่อเทียบกับ ลวดหนามชุบซิงค์ปกติ
  • 2. ผลการทดสอบอายุการใช้งานจากสภาวะชั้นการสึกกร่อนต่าง ๆ

    จากปัจจัยต่างๆ ที่ใช้ทดสอบ ได้กำหนดพื้นที่ระดับการสึกกร่อน ตั้งแต่ C1 ถึง C4 (ตามมาตรฐาน EN ISO 9223) ทั้งนี้เพื่อนำผลที่ได้รับนำมาคำนวณหาค่าน้ำหนักของสารเคลือบโลหะ ที่สึกกร่อนหายไป ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้ สามารถนำไปประเมินถึงอายุการใช้งานได้ในลำดับต่อไป (ตามมาตรฐาน EN ISO 9224:1992)

    *อายุการใช้งานขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัย เช่น ลักษณะสภาพอากาศ และประเภทของการใช้งาน ตลอดจนคุณภาพของสารที่ใช้เคลือบ

    จึงทำได้เพียงประเมินอายุการใช้งานได้เท่านั้น

    ตามมาตรฐาน DIN SS 5021, ASTM B117, ISO 9227 มาตรฐานการทดสอบด้วยละอองน้ำเกลือ เป็นการทดสอบเพื่อพิสูจน์ถึง ความทนทานของวัตถุที่ชุบ หรือเคลือบสารโลหะบางชนิด ต่อการสึกกร่อน ของตัวอย่างที่ทดสอบ ผลการทดสอบด้วยวิธีนี้ เป็นการตรวจสอบ ความไม่สม่ำเสมอของสารที่เคลือบในวัตถุ เช่น การเกิดรูพรุนในวัตถุ ทำให้ทราบถึงมาตรฐาน ในการชุบหรือเคลือบของโลหะ ทั้งผลการทดสอบ ยังทำให้ทราบถึงข้อบกพร่องอื่นๆ ที่เกิดขึ้นได้อีกด้วย ในการทดสอบครั้งนี้ไวน์แมน ได้ทดสอบในห้องทดลองที่ได้รับมาตรฐาน ISO 9001 ภายใต้การควบคุม ของสถาบันระดับโลกมาตรฐานสากล โดยใช้ตัวอย่างลวดหนาม ที่ชุบโลหะในปริมาณที่เท่ากันทั้งเส้น โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ

    1. ชุบซิงค์ปกติ
    2. ชุบซิงค์อลูมิเนียม (ส่วนผสมอลูมิเนียม 5 %)
    3. ลวดหนามซิงค์อลูมิเนียมไวน์แมน (ส่วนผสมอลูมิเนียม 10 %)
    จากการทดสอบ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ผลการทดสอบ ซึ่งแสดงผลได้ด้วยกราฟ ดังนี้
    1. ผลการทดสอบความทนทานต่อการกัดกร่อนของละอองเกลือ

  • ลวดหนามชุบซิงค์อลูมิเนียม (ส่วนผสมอลูมิเนียม 10 %) ทนทานกว่า 3 เท่า เมื่อเทียบกับ ลวดหนามชุบซิงค์อลูมิเนียม (ส่วนผสมอลูมิเนียม 5 %)

  • ลวดหนามซิงค์อลูมิเนียมไวน์แมน (ส่วนผสมอลูมิเนียม 10 %) ทนทานกว่า 14 เท่า เมื่อเทียบกับ ลวดหนามชุบซิงค์ปกติ
  • กดที่รูปเพื่อขยาย

    2. ผลการทดสอบอายุการใช้งานจากสภาวะชั้นการสึกกร่อนต่าง ๆ

    จากปัจจัยต่างๆ ที่ใช้ทดสอบ ได้กำหนดพื้นที่ระดับการสึกกร่อน ตั้งแต่ C1 ถึง C4 (ตามมาตรฐาน EN ISO 9223) ทั้งนี้เพื่อนำผลที่ได้รับนำมาคำนวณหาค่าน้ำหนักของสารเคลือบโลหะ ที่สึกกร่อนหายไป ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้ สามารถนำไปประเมินถึงอายุการใช้งานได้ในลำดับต่อไป (ตามมาตรฐาน EN ISO 9224:1992)

    กดที่รูปเพื่อขยาย

    กดที่รูปเพื่อขยาย

    *อายุการใช้งานขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัย เช่น ลักษณะสภาพอากาศ และประเภทของการใช้งาน ตลอดจนคุณภาพของสารที่ใช้เคลือบ

    จึงทำได้เพียงประเมินอายุการใช้งานได้เท่านั้น

    หากคุณอยากรู้จักลวดหนามให้มากขึ้น เราขอแนะนำให้อ่านบทความด้านล่างนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง

    • ความเป็นมาของลวดหนาม
    • เบอร์ลวดหนามที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน
    • ลักษณะการพันเกลียวหนามมีกี่รูปแบบ
    • การเคลือบสารกันสนิมหรือการชุบซิงค์ มีกี่แบบ และแตกต่างกันอย่างไร
    • ความแตกต่างของลวดหนามไวน์แมน และลวดหนามทั่วไป

    หากคุณอยากรู้จักลวดหนามให้มากขึ้น เราขอแนะนำให้อ่านบทความด้านล่างนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง

    • ความเป็นมาของลวดหนาม
    • เบอร์ลวดหนามที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน
    • ลักษณะการพันเกลียวหนามมีกี่รูปแบบ
    • การเคลือบสารกันสนิมหรือการชุบซิงค์ มีกี่แบบ และแตกต่างกันอย่างไร
    • ความแตกต่างของลวดหนามไวน์แมน และลวดหนามทั่วไป

    สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อได้ที่