ขึ้นทะเบียนเกษตรกร: ขั้นตอนและสิทธิประโยชน์ที่คุณควรรู้

ขึ้นทะเบียนเกษตรกร: ขั้นตอนและสิทธิประโยชน์ที่คุณควรรู้
Facebook
Twitter
Email
Pocket

สารบัญบทความ

เกษตรกรชายกำลังลงทะเบียนข้อมูลในฟาร์มผักเขียวด้วยคลิปบอร์ดในมือ

การขึ้นทะเบียนเกษตรกรเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้เกษตรกรได้รับสิทธิประโยชน์จากภาครัฐอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าร่วมโครงการสนับสนุน การรับเงินเยียวยา หรือการเข้าถึงข้อมูลและเทคโนโลยีใหม่

ทำไมต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกร?

การขึ้นทะเบียนเกษตรกรช่วยให้ภาครัฐสามารถวางแผนและจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเกษตรกรเองก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น:

  • การเข้าร่วมโครงการสนับสนุนจากภาครัฐ
  • การรับเงินเยียวยาในกรณีเกิดภัยพิบัติ
  • การเข้าถึงข้อมูลและเทคโนโลยีการเกษตรใหม่ ๆ

คุณสมบัติของผู้ที่สามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกร

ชาวนาในแปลงนาข้าวสีเขียวกำลังจดข้อมูลการเพาะปลูกลงในแฟ้มจดบันทึก

ผู้ที่สามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้ต้องมีคุณสมบัติดังนี้:

  • มีสัญชาติไทย
  • มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
  • ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น การปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ หรือทำประมง
  • มีแปลงเกษตรกรรมที่สามารถตรวจสอบได้

เอกสารที่ต้องใช้ในการขึ้นทะเบียน

เอกสารประกอบการขึ้นทะเบียนเกษตรกร เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน โฉนดที่ดิน และผังแปลงฟาร์ม วางเรียงบนโต๊ะไม้

ในการขึ้นทะเบียนเกษตรกร จำเป็นต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้:

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • หลักฐานการถือครองที่ดิน (ถ้ามี)
  • แผนผังแปลงเกษตรกรรม
  • รูปถ่ายแปลงเกษตรกรรม

ช่องทางการขึ้นทะเบียนเกษตรกร

ปัจจุบันมีช่องทางการขึ้นทะเบียนเกษตรกรดังนี้:

1. ขึ้นทะเบียนที่สำนักงานเกษตรอำเภอ

เกษตรกรสามารถไปยื่นเอกสารและกรอกแบบฟอร์มที่สำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ของตนเอง

2. ขึ้นทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน Farmbook

แอปพลิเคชัน Farmbook เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สะดวกและรวดเร็ว โดยเกษตรกรสามารถดาวน์โหลดและลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง

สิทธิประโยชน์หลังการขึ้นทะเบียน

ภาพประกอบเชิงกราฟิกแสดงสิทธิประโยชน์ของเกษตรกร เช่น เงินสนับสนุน การฝึกอบรม การตลาด และการเข้าร่วมโครงการรัฐ

เมื่อเกษตรกรทำการขึ้นทะเบียนกับภาครัฐอย่างถูกต้อง จะได้รับสิทธิประโยชน์หลายด้านที่ช่วยส่งเสริมและยกระดับคุณภาพชีวิตและการทำเกษตรอย่างยั่งยืน ดังนี้:

1. เข้าถึงโครงการสนับสนุนจากภาครัฐ

ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการช่วยเหลือ เช่น โครงการแจกพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ เครื่องมือเกษตร และเงินสนับสนุนต้นทุนการผลิต

เข้าร่วมโครงการประกันรายได้พืชเกษตร เช่น ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง และอ้อย มีโอกาสได้รับทุนหรือสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำผ่านหน่วยงานรัฐ เช่น ธ.ก.ส. หรือสหกรณ์การเกษตร

2. รับเงินเยียวยากรณีเกิดภัยพิบัติ

เมื่อเกิดภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง หรือโรคระบาดในพืช/สัตว์ เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้แล้วจะได้รับเงินเยียวยาหรือการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ได้รับการพิจารณาให้ฟื้นฟูแปลงเกษตร และสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ใหม่ในพื้นที่เสียหาย

3. เข้าถึงองค์ความรู้และเทคโนโลยีใหม่

ได้รับข้อมูลเตือนภัยล่วงหน้า เช่น พยากรณ์อากาศหรือโรคพืชรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการผลิตและการจัดการฟาร์มสมัยใหม่จากกรมส่งเสริมการเกษตร สามารถเข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการหรือกิจกรรมทดลองปลูกพืชทดแทนในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม

4.พัฒนาทักษะผ่านการอบรมต่อเนื่องได้รับการอบรมด้านการตลาด

การเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร หรือการใช้ดิจิทัลเพื่อขายสินค้า

มีโอกาสเข้าร่วมโครงการพัฒนาเกษตรกรต้นแบบ หรือ Smart Farmerขยายโอกาสสู่การเป็น “เกษตรกรรุ่นใหม่” ที่สามารถเข้าถึงนโยบายการสนับสนุนได้มากขึ้น

การปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกร

เกษตรกรควรปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น การเปลี่ยนแปลงแปลงเกษตรกรรม หรือการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ข้อมูลเป็นปัจจุบันและสามารถรับสิทธิประโยชน์ได้อย่างต่อเนื่อง

คำถามที่พบบ่อย

สามารถขึ้นทะเบียนได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ของตนเอง หรือผ่านแอปพลิเคชัน Farmbook

เอกสารที่ต้องใช้ ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน หลักฐานการถือครองที่ดิน (ถ้ามี) แผนผังแปลงเกษตรกรรม และรูปถ่ายแปลงเกษตรกรรม kasetkaoklai.com

หากไม่ปรับปรุงข้อมูล อาจทำให้ไม่สามารถรับสิทธิประโยชน์จากภาครัฐได้อย่างเต็มที่

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Farmbook สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของกรมส่งเสริมการเกษตรได้ที่ https://farmer.doae.go.th/

Facebook
Twitter
Email
Pocket

สินค้าแนะนำ

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการสั่งซื้อสินค้า ติดต่อได้ตามช่องทางด้านล่างนี้

บทความล้อมรั้วน่ารู้